LENSES

First Look: Exploring Patagonia with the Sigma 300-600mm F4 DG OS | Sports Lens

300-600mm F4 DG OS Sports
by Liam Doran

Sigma Ambassador Liam Doran with the 300-600mm F4 DG OS | Sports lens.

 

ในฐานะช่างภาพสายธรรมชาติและการเดินทาง
โลกใบนี้เต็มไปด้วยสถานที่มากมายที่คอยเชื้อเชิญให้เราออกไปสำรวจและถ่ายทอดความงดงามผ่านเลนส์ แสงอุ่นที่ปกคลุมภูมิทัศน์แปลกตา พื้นที่กว้างใหญ่สุดสายตา
และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่อัดแน่นไปด้วยชีวิต สิ่งเหล่านี้คือแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทาน
โดยเฉพาะสำหรับนักผจญภัยผู้กระหายการค้นพบใหม่ๆ หนึ่งในสถานที่ที่ผมใฝ่ฝันอยากไปเยือนมากที่สุด คือ ดินแดนปาตาโกเนีย ทางตอนใต้ของประเทศชิลี
ภูมิภาคที่เปรียบเสมือนบทกวีแห่งธรรมชาติงดงาม ยิ่งใหญ่ และไม่มีที่ใดเหมือนบนโลกใบนี้

 

A landscape to set the scene, shot with my main travel lens, the Sigma 24-70mm F2.8 DG DN II | Art.

 

ที่ปาตาโกเนียมีสิ่งให้ถ่ายภาพและสำรวจมากมายเกินจะนับ
ดังนั้นผมจึงเลือกโฟกัสสายตาให้แคบลงมุ่งตรงไปยัง อุทยานแห่งชาติ Torres del Paine
และเจาะลึกลงไปที่ เหล่าสัตว์ป่าผู้เป็นเจ้าถิ่นแท้จริงของที่นี่ สัตว์ที่โดดเด่นที่สุด และเป็นแรงบันดาลใจหลักในการเดินทางครั้งนี้ก็คือ เสือพูมาชื่อดังของอุทยาน
ด้วยความร่วมมือจากบรรดาเอสตานเซีย (ฟาร์มปศุสัตว์ท้องถิ่น) ที่ตั้งอยู่รอบๆ เขตอุทยาน
พื้นที่กว้างใหญ่เหล่านี้จึงกลายเป็น อาณาจักรอิสระของเสือพูมา ปลอดภัยจากการล่าและกับดักมนุษย์ ผลที่เกิดขึ้นคือจำนวนประชากรเสือพูมาใน Torres del Paine และพื้นที่โดยรอบ เติบโตอย่างน่าทึ่ง
เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างธรรมชาติและมนุษย์

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
600mm, F4.5, 1/400s, ISO 1000

The ultimate wildlife photography zoom lens

 

เลนส์คู่ใจที่ผมเลือกใช้ในการถ่ายพูมา รวมถึงสัตว์ป่าทุกชนิดที่ได้พบเจอ คือเลนส์รุ่นใหม่ล่าสุด SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
นี่คือเลนส์ระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และผมก็ได้นำมันมาใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ ตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่นั่น ผมได้พบกับพูมาทั้งหมด 17 ตัว ในการเผชิญหน้าราว 25 ครั้ง
เท่าที่ผมรู้ ยังไม่มีที่ไหนในโลกที่สามารถพบเห็นพูมาได้ถี่และใกล้ชิดเช่นนี้
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ พิเศษเหนือคำบรรยาย

แม้จะไม่ใช่ทุกครั้งที่ได้ภาพถ่ายกลับมา แต่จำนวนภาพที่ได้ก็เพียงพอให้ผมเก็บเรื่องราวอันน่าทึ่งไว้ได้มากมาย
นอกจากพูมาแล้ว ผมยังได้ถ่ายภาพของ นก Condor แห่งเทือกเขาแอนดีส, จิ้งจอกสีเทา, นก Rhea, นกเค้าแคระออสตรัล, อินทรีอกดำ,
และแน่นอน—กวานาโก้ (guanacos) ที่พบได้ทั่วไปในพื้นที่อีกด้วย

นี่คือประสบการณ์ที่รวมเอาทั้งความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ความพิเศษของสัตว์ป่า และศักยภาพของอุปกรณ์ที่อยู่ในมือเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
600mm, F5, 1/1600s, ISO 1000

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
600mm, F4, 1/1000s, ISO 1250

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
395mm, F6.3, 1/500s, ISO 1250

 

เลนส์ SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับการถ่ายภาพสัตว์ป่าในอุทยานแห่งนี้
คุณภาพของออพติคคมกริบอย่างน่าทึ่ง ให้คอนทราสต์ที่สวยงามและสีสันที่ยอดเยี่ยม

ระบบโฟกัส HLA (High-response Linear Actuator) เร็วมากเป็นพิเศษ
เมื่อใช้งานร่วมกับระบบ Animal Eye AF บนกล้องของผม ตัวเลนส์สามารถล็อกเป้าได้อย่างแม่นยำ
และให้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพอย่างสม่ำเสมอ

ตัวเลนส์มีขนาดใหญ่และค่อนข้างหนัก คล้ายกับเลนส์ไพรม์ 500mm หรือ 600mm F4 จากค่ายอื่น ๆ
แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับชุดอุปกรณ์ของช่างภาพคนอื่น ๆ ในพื้นที่
ชุดของผมมักจะเล็กกว่าและเบากว่านิดหน่อยเสมอ
ผมสามารถถือเลนส์ถ่ายด้วยมือได้หลายภาพ
แต่ในหลาย ๆ สถานการณ์ ผมก็ใช้ติดตั้งกับขาตั้งกล้องเพื่อความมั่นคงทั้งในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

เลนส์นี้ไม่ได้มีดีแค่ซูมไกล แต่มันคือเครื่องมือที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์จริงระดับมืออาชีพได้ทุกแง่มุม

 

This lens can be hand held, but a sturdy tripod makes a day in the field much more practical.

 

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผมชื่นชอบที่สุดของ SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
คือมันเป็นเลนส์ซูม…แต่ ให้ประสบการณ์ใช้งานแบบเลนส์ไพรม์ อย่างแท้จริง

มีหลายครั้งที่พูมาเข้ามาใกล้กว่าที่คาดไว้มาก
ในขณะที่ช่างภาพคนอื่น ๆ ต้องรีบเปลี่ยนเลนส์เพื่อให้ได้ระยะพอดี
ผมแค่ หมุนซูมถอยออกนิดเดียว ก็พร้อมถ่ายต่อได้ทันที อีกสิ่งที่ผมรักมากคือ รูรับแสงคงที่ F4 ตลอดช่วงซูม
ผมสามารถเปิดรูรับแสงกว้างสุดถ่ายวิดีโอช่วงก่อนฟ้าสางได้อย่างมั่นใจ
ส่วนภาพนิ่งนั้น F4 ก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม
ช่วย “แยกตัวแบบ” ออกมาจากฉากหลังได้อย่างสวยงาม มีมิติ และทรงพลัง

พูดให้ชัดก็คือ คุณเหมือนได้เลนส์ไพรม์คุณภาพสูงระดับ F4 ถึง 4 ระยะ
ในเลนส์เพียงตัวเดียว อ้อ… และราคายังถูกกว่าเลนส์ไพรม์ F4 ตัวเดียวจากบางค่ายถึงครึ่งหนึ่ง
จะเรียกว่า “น่าทึ่ง” ก็ยังน้อยไป

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
395mm, F4.5, 1/1600s, ISO 1000

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
561mm, F4.5, 1/2000s, ISO 1000

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
600mm, F4, 1/1000s, ISO 1000

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
600mm, F4, 1/2000s, ISO 160

 

อุทยานแห่งชาติ Torres del Paine เป็นจุดหมายในฝันของช่างภาพสายแลนด์สเคปทั่วโลก
ด้วยแสงอุ่นต่ำจากมุมอาทิตย์ในละติจูดตอนใต้
ประกอบกับยอดเขาหินแกรนิตอันสูงตระหง่านของ Cuernos และ Towers ที่งดงามน่าเกรงขาม
แม้ว่าส่วนใหญ่ผมจะมุ่งเน้นไปที่การถ่ายพูมา
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพของสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์แห่งนี้ไว้บ้าง

และด้วยเลนส์ SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
ผมสามารถเปลี่ยนมุมมองและจัดองค์ประกอบภาพได้หลากหลาย
โดยไม่ต้องขยับตัวหรือเปลี่ยนเลนส์เลย
แถมยังได้เอฟเฟกต์ “compression” สุดสวย
ที่ช่วยสร้างภาพภูมิทัศน์ให้ดูแปลกตา มีมิติ และโดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
300mm, F5.6, 1/500s, ISO 400

 

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
300mm, F6.3, 1/800s, ISO 400

SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports
Sony a1 Camera
451mm, F5.6, 1/800s, ISO 640

 

 

My Sigma lens kit for travel and storytelling

 

การบินข้ามโลกไปยังหนึ่งในสถานที่ที่งดงามที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ
จะให้ผมพลาดการเก็บภาพแลนด์สเคปและวัฒนธรรมท้องถิ่นก็คงบ้าเกินไป
เพื่อช่วยเล่าเรื่องเหล่านั้น ผมพกเลนส์คู่ใจไปด้วย 3 ตัว ได้แก่

• SIGMA 16-28mm F2.8 DG DN | Contemporary
• 24-70mm F2.8 DG DN II | Art
• และ 70-200mm F2.8 DG DN OS | Sports

ชุดเลนส์สามตัวนี้เดินทางกับผมไปทั่วโลก
ภาพถ่ายจากเลนส์เหล่านี้เคยถูกใช้เป็น ภาพปกนิตยสาร, บทความฟีเจอร์ขนาดยาว
รวมถึง แคมเปญโฆษณาเชิงพาณิชย์ระดับใหญ่

ผมไว้วางใจในเลนส์ทั้งสามตัวนี้ว่าจะพาผมทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมันก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
ในทริปนี้เช่นกัน…เรารับมือกับทุกสถานการณ์ที่ผมเจอได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจอีกครั้ง

 

SIGMA 16-28mm F2.8 DG DN | Contemporary
Sony a1 Camera
16mm, F3.5, 1/320s, ISO 2000

SIGMA 24-70mm F2.8 DG DN II | Art
Sony a1 Camera
40mm, F16, 30s, ISO 250

 

SIGMA 70-200mm F2.8 DG DN OS | Sports
Sony a1 Camera
192mm, F9, 0.6s, ISO 100

 

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าจดจำของทริปนี้ คือการได้ไปเยือน Estancia San Louis
ฟาร์มเลี้ยงแกะที่ยังคงดำเนินงานจริง และอยู่ในความดูแลของครอบครัวท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน

ขณะที่อยู่ที่นั่น เราได้เห็น กาอูโช (gaucho) หรือคาวบอยแห่งแดนใต้
กำลังต้อนแกะด้วยสุนัขคู่ใจ และยังได้สาธิตให้ชมวิธีการตัดขนแกะอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ภาพของกาอูโชที่ทำงานร่วมกับฝูงแกะ ท่ามกลางฉากหลังเป็นยอดเขา Towers
คือภาพคลาสสิกของปาตาโกเนียที่ทั้งมีชีวิต มีเรื่องราว และเปี่ยมด้วยเสน่ห์
การได้เก็บภาพช่วงเวลานั้นไว้จึงเป็นทั้งความสุข และความประทับใจที่ยากจะลืม

 

SIGMA 24-70mm F2.8 DG DN II | Art
Sony a1 Camera
24mm, F9, 1/800s, ISO 800

SIGMA 24-70mm F2.8 DG DN II | Art
Sony a1 Camera
70mm, F6.3, 1/800s, ISO 400

 

ผมจองทริปไปปาตาโกเนียกับบริษัท Chile Nativo ซึ่งต้องบอกเลยว่าพวกเขารู้จักพื้นที่นี้เป็นอย่างดี
ความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นของทีมงานเห็นได้ชัดทุกขั้นตอน และประสบการณ์การพักแบบ Glamping (แคมป์หรู) ที่ Riverside Camp ก็ยอดเยี่ยมสุดๆ

ไกด์ของผมชื่อ ซานติอาโก (Santiago)
เขาช่วยเหลือดีมาก ทำให้การตามหาพูมาและจุดถ่ายภาพแลนด์สเคปต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายและสนุก
ทีมงานทั้งหมดน่าร่วมงานด้วยมาก และถ้าคุณคิดจะเดินทางไปที่นั่น ผมขอ แนะนำ Chile Nativo อย่างจริงใจ ในการเดินทาง ผมบินไปลงที่ Punta Arenas แล้วเช่ารถขับไป
อีกตัวเลือกคือบินไปลงที่ Puerto Natales ซึ่งอยู่ใกล้กับ Torres del Paine มากกว่า
แต่ราคาตั๋วมักจะ แพงกว่าพอสมควร ครับ

 

Final thoughts

 

ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปเพื่อถ่ายภาพสัตว์ป่า ทิวทัศน์ธรรมชาติ หรือเพื่อการท่องเที่ยวทั่วไป
ทริปสู่ปาตาโกเนีย ประเทศชิลี คือสิ่งที่ช่างภาพสายผจญภัยควรใส่ไว้ในลิสต์อย่างแน่นอน

หากแผนการเดินทางของคุณมีการถ่ายภาพสัตว์ป่าอยู่ในนั้น
ผมขอแนะนำให้พิจารณา SIGMA 300-600mm F4 DG OS | Sports เป็นเลนส์หลัก
สำหรับผม มันคือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ได้ภาพที่ดีที่สุดจากทริปนี้

และอย่าลืมนำเลนส์ SIGMA ตัวอื่นๆ ไปด้วย
เพื่อเก็บภาพผู้คน วิถีชีวิต และทิวทัศน์อันน่าทึ่ง — คุณจะไม่เสียใจแน่นอน

หากมีคำถามหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับทริป
ยินดีให้ข้อมูลเสมอครับ แล้วหวังว่าจะได้เจอกันในสนามจริง!

ช่างภาพ

Liam Doran

Liam Doran ช่างภาพท่องเที่ยวผจญภัยและกีฬากลางแจ้งประจำแบรนด์ SIGMA ประจำอยู่ที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา
ผลงานของเขาครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิตบนภูเขา ไม่ว่าจะเป็น การเล่นสกี ปั่นจักรยาน วิ่งเทรล ฟลายฟิชชิ่ง
รวมถึงการถ่ายภาพ ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ ท่ามกลางธรรมชาติ

ภาพถ่ายของ Liam ได้รับการเผยแพร่อย่างสม่ำเสมอในโฆษณาระดับพาณิชย์
รวมถึงนิตยสารสายเอาต์ดอร์ชั้นนำของโลก เช่น Powder, Outside, Ski, Skiing, Trail Runner, Mountain Magazine และอีกมากมาย

อุปกรณ์ถ่ายภาพ

 

Product 1

300-600mm F4 DG OS